วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บุคลิกภาพและการพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน

บุคลิกภาพและการพัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน

บุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง บุคลิกลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล ซึ่งจะประกอบไปด้วยรูปร่างหน้าตา ลักษณะนิสัย อารมณ์ ความสนใจ ความสามารถ ตลอดจนความมีมนุษย์สัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง

บุคลิกภาพจะประกอบไปด้วยลักษณะภายนอกและภายในของแต่ละบุคคล ทำให้บุคคลแต่ละคนนั้นสมรรถทางร่างกายและจอตใจแตกต่างกันออกไป

-ลักษณะภายนอก ถือเป็นรูปธรรม หมายถึง รูปร่างหน้าตาของแต่ละบุคคลที่เป็นมาแต่กำเนิด เช่น มีรูปร่างหน้าตา รูปหล่อ หน้าตาสวยงาม บางคนเกิดมาหน้าตาหน้ากลัว ขี้ริ้วขี้เหร่ บางคนไม่สมประกอบ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาบุคลิคภาพเป็นอย่างมาก บางคนที่เกิดมาที่มีความเพียบพร้อมดีแล้วทางด้านร่างกาย ย่อมส่งผลดีทางด้านจิตใจอีกด้วย

ลักษณะทางร่างกายที่ทุกคนชื่นชอบ

1.มีส่วนสูงและน้ำหนักตามเกณฑ์

2.มีผิวพรรณสวยงามเหมาะตามธรรมชาติ

3.ชาวเอเชียจะมีผมเป็นสีดำ ชาวยุโรบจะมีผมเป็นสีทอง

4.ความเข้มแข็งของสุภาพบุรุษ และความนุ่มนวลของสุภาพสตรี

-ลักษณะภายใน ถือเป็นนามธรรม หมายถึง ลักษณะภายในทางด้านจิตใจ ด้านอุปนิสัย ใจคอ ลักษณะความรู้สึกนึกคิด ความร่าเริงแจ่มใส ความประพฤติและพฤติกรรมของแต่ละบุคคล

การพัฒนาบุคลิกภาพ

ลักษณะของบุคคลโดยรวมของแต่ละบุคคล ย่อมแตกต่างกันทั้งรูปร่างหน้าตา ด้านอารมณ์ สังคม สติปัญญา พฤติกรรม เพื่อการกระทำใดๆ ตลอดจนการแสดงกริยาอาการต่างๆ ซึ่งถือเป็นลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคลซึ่งต้องมีการพัฒนาเพื่อเป็นที่ยอมรับนับถือกับผู้ที่พบเห็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาบุคลิกภาพ

ประโยชน์ของการพัฒนาบุคลิกภาพ

1.สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงตลอดเวลา ด้วยการออกกำลังกาย

2.บุคลิกภาพที่ดีคล่องแคล่วว่องไว และสง่าผ่าเผย

3.มีความร่าเริง จิตใจแจ่มใส อารมณ์ดี

4.มีกิริยามารยาทและพูดจาสุภาพเป็นเสน่ห์กับผู้พบเห็น

5.มีเหตุผล ไม่วู่วาม มีความสุขุมรอบคอบ มีสติ ควบคุมตังเองได้

6.มีจิตใจเข้มแข็ง อดทน

7.ยอมรับความเป็นจริงของโลกมนุษย์

8.มีความเชื่อมั่นในตังเอง กล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก

9.มีความคิดใฝ่หาความก้าวหน้าในการทำงาน

10.ปรับปรุงตนเอง ให้เข้ากับสังคม

บุคลิกภาพมีความสำคัญต่อการทำงานอย่างยิ่ง เพราะคนที่มีบุคลิกภาพที่ดีย่อมจะช่วยส่งเสริม การปฏิบัติงาน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปฏิบัติงานอื่น ๆ บุคลิกภาพประกอบไปด้วยลักษณะภายนอกและภายในของแต่ละบุคคล

ลักษณะภายนอก ถือเป็นรูปธรรม คือ รูปร่างหน้าตาของแต่ละบุคคลที่เป็นมาแต่กำเนิด

ลักษณะภายใน ถือเป็นนามธรรม คือ ลักษณะภายในทางด้านจิตใจ ด้านอุปนิสัย ใจคอ

บุคลิกภาพของแต่ละบุคคลย่อมจะแตกต่างกันไป ฉะนั้นการเสริมสร้างและพัฒนาบุคลิกภาพในทุก ๆ ด้าน ให้เป็นที่ยอมรับของบุคคลอื่น ก็จะเป็นผู้ที่ได้รับความสำเร็จในการดำรงตนอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พรบ คอมพิวเตอร์ 50_250

หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร